วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ชมซากุระที่โตเกียว + บังเอิญไปดู AKB49 The Musical [SKE48単独公演]

AKB49 The Musical
[SKE48単独公演]


ย้อนกลับเมื่อตอนต้นปี ที่เธียเตอร์ SKE48 ได้ประกาศเซอร์ไพร
โดยจะนำ AKB49 The Musical มารีเมค เป็น versionของ SKE48
และได้ประกาศนักแสดงนำออกมาคือ

Furuhata Nao



โดยรับบทเป็น Urayama Minoru/Urakawa Minori
(ความกรี๊ดต้องมา!!!!)

จัดแสดงที่ Chunichi Theatre ที่นาโงย่า
ซึ่งความพิเศษคือจัดขึ้นเพียง 6 รอบเท่านั้น



แต่ ณ ตอนนั้นก็ยังไม่ได้ตั้งใจว่าจะไปดูหรอก เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราตั้งใจเปลี่ยนงานพอดี
จนมาบรรจบกับเราหางานใหม่ได้พอดี และเริ่มงานที่ใหม่วันที่ 16 มีนาคม !!!

ก็เลยมีช่วงเวลาว่าง 1 อาทิตย์พอดีหลังจากลาออกเลย จัดการจองตั๋วไปญี่ปุ่นซะ
ซึ่งเป็นครั้งแรกในปีนี้ด้วย โดยห่างจากรอบที่แล้วตั้ง 4 เดือนแน่ะ

พอจากนั้นก็มีประกาศให้ลงตั๋ว เราก็ลงไปทุกรอบเลย
กะว่าใน 6 รอบเนี่ย ได้รอบไหนก็ดูรอบนั้น ซึ่งก็แน่นอนว่าประกาศออกมา
"ไม่ถูกสักรอบเลย"

แต่ก็ตั้งใจไว้แล้วล่ะ ว่าไปญี่ปุ่นทั้งทีจะไม่ไปดูหน่อยก็กะไรอยู่
เลยไปหาบัตรจาก auction.yahoo เอา โดยไหนๆก็จาก auction ละ
ก็ขอรอบแรกเลยละกัน ให้มันพิเศษหน่อย
(สรุป แพงเป็นพิเศษ ฮ่าาาาาา)

ซึ่งรอบนี้เรานั่ง Thai Airasia X ไปลงที่ Tokyo ก่อน เพราะกะว่าไปแวะเที่ยวก่อน


ไปแวะสวนสนุกที่ Tokyo dome city มาด้วย 
(ขึ้นชิงช้าสวรรค์คนเดียว เหงาสุด..........)


และเนื่องจากจอกที่พัก Rihga royal hotel ไว้ มันอยู่ติดกับ ม.วาเซดะ
เลยแวะไปเดินดูบรรยากาศใน ม. ก็สวยดี แต่เสียดายน่าจะเป็นช่วงปิดเทอม
ไม่ค่อยมีนักเรียนเท่าไหร่


ใน ม. มีต้นซากุระประปรายให้เห็นตามทางอยู่บ้าง

และก็ได้ไปทานร้านที่อยากกินมานาน
Max Brenner Chocolate Bar
อร่อยแรง แถวยาวมากกกกก
ต่อคิวเกือบ 2 ชม.ได้
http://tabelog.com/en/tokyo/A1306/A130602/13162665/
ตามรอยได้.....

วันก่อนที่จะไป นาโงย่าก็มีความโชคดีถูก Stage team A อีก อิอิ

และเราก็นั่งบัสตอนรอบ 5 ทุ่ม มาลงที่นาโงย่า มาถึงนาโงย่าเช้ามากกกกก ก่อน 7 โมงอีก
ซึ่งตั๋วที่เราจองมันรอบ 10 โมง หนาวก็หนาว ตึกก็ยังไม่เปิด
เลยไปหาคาเฟ่นั่งแถวๆนั้น โชคดีมีร้านเปิดพอดี เลยอาศัยสิงอยู่ได้ร่วม 2 ชั่วโมง

โดยตั๋วที่เราออคมาได้นั้น เป็นตั๋วแบบมีคนพาเข้า จึงไม่มีปัญหาเรื่องชื่อไม่ตรงกับบัตร
แต่ตั๋วประเภทนี้จะแพงกว่าตั๋วปกติ นิดหน่อย แต่ไม่ต้องแบกรับความเสี่ยง
ก็ถือว่าซื้อความสบายใจไป
โดยราคาหน้าบัตร 6,800Y เราออคมาราคา 13,000Y
แพงเพราะว่าเป็นรอบแรกด้วยมั้ง

ถึงเวลานัดคนที่เราออคเค้าบอกเค้าอาจจะมาสายหน่อย เลยทำให้ไปซื้อของหน้างานไม่ทัน
เสียจุยนิดนึง ตอนแรกนึกว่าจะมีขายหลังแสดงจบ แต่เค้ากลับไม่ขาย ก็เลยเงิบกันไป
คนที่ขายตั๋วให้เราเค้าก็เงิบ ฮ่าาาา


หน้าตึกก็มีตารางให้ดูว่า วันนี้มีจัดแสดงอะไรมั่ง ซึ่ง AKB49 จัดอยู่ที่ชั้น 9
แล้วที่ลิฟคนต่อแถวขึ้นเยอะมาก ไอ้เราก็ไม่ชอบการเบียดเสียดไง
สรุปเลยเดินนนนน เดินตรงบันไดหนีไฟ ไป 9 ชั้น
ขึ้นมาถึง ขาสั่นเลย ฮ่าาาาา 

พอเจอโอตะที่ขายตั๋วให้เรา ก็ทักทายกันปกติ เค้าก็คอยแนะนำว่าเดี๋ยวตรวจของนะ
เอาโลหะออกนะ บลาๆๆ ตอนเดินเข้าไปด้วยกัน เค้าก็ยังไม่ให้ตั๋วเราหรอก
เราก็ไม่รู้ว่าไกล ใกล้แค่นั้น จนลงมาเรื่อยๆๆ โอ้ววววว
ใกล้แฮะ แถวที่ 10 เอง ><

สำหรับรอบที่เราดูนั้น นางเอกจะเป็น Kitagawa Ryoha

โดยเนื้อหาในเรื่องจะเป็นช่วงแรกๆของมังงะ จนถึงรอบที่ขายตั๋วราคา 10,000Yen ให้เต็ม
(ซึ่งก็เป็นช่วงที่เราอ่านมังงะมาแล้วพอดี เลยไม่ค่อยงง แม้จะฟังญี่ปุ่นไม่ออ)
อีกอย่างด้วยความที่มันเป็น Musical มันก็เลยทำให้อินกับเรื่องได้ง่ายขึ้น

สำหรับการแสดง ตอนออกมาเพลงแรกๆ(Seishun girls)
ก็พอเห็นสีหน้านักแสดงว่ามีอาการเกร็ง
หรือตื่นเต้นบ้าง แต่พอผ่านไปก็รู้สึกไหลลื่นขึ้นเรื่อยๆ

สำหรับคู่พระ-นาง ของเรื่อง
ก็เข้าสู่บทบาทได้ดี จนเรารู้สึกอินตาม ดูไปซึ้งไป ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้ดี

Furuhata nao

(Urayama Minoru/Urakawa Minori)



นาโอะ เวลาแต่งเป็นผู้หญิงนี่ดูเกย์สุดๆ จนรู้สึกว่าเอออ นี่มันผู้ชายจริงๆนี่หว่า
ฉากที่ทอปฟอร์มสุดคงเป็นฉาก ตอนที่บัตรขายไม่หมดเคงคิวเซย์ทั้งหมดคงจะถูกยุบ
แล้วนาโอะ ออกมา Long speech เป็นนาทีๆเลย
ขนาดเราฟังไม่ออก ยังอินตาม ส่วนโอตะคนอื่นนี่ไม่ต้องสืบ
คนขายตั๋วให้เรา นั่งเช็ดน้ำตาแหมะๆๆ เสียงซู้ดน้ำมูก มาเป็นระยะๆๆ


Kitagwa Ryoha

(Hiroko Yoshinaga)


เรียวฮะเป็นบทที่ดูแล้ว ทำให้เรารู้สึกอยากเอาใจช่วยให้เค้าได้เป็นไอดอลจริงๆ
แม้เค้าจะดูเป็นคนที่เกร็งๆสุดในเรื่องก็ตาม ฮ่าาาา
(นี่อินขนาดลืมไปว่า ตัวจริงเค้าก็เป็นไอดอลนี่หว่า wwwww)
ถึงเสียงร้องจะไม่ได้เว่อร์วัง เหมือนนาโอะ และอากาเนะ
แต่ก็ไม่รู้สึกติดขัดอะไรเท่าไหร่เวลาดู

แถมเวลาที่ 2 พระนางออกมาคู่กันนี่ มันน่ารักน่าจิ้นจริงๆ


แอบหมั่นไส้นิดหน่อย สวยเกิน..............

---------------------------------------------------------------------------------
บทสรุป

เป็น 2 ชั่วโมงที่รู้สึกว่าคุ้มค่าจริงๆ แม้บางคนจะบทไม่มาก แต่ก็เห็นได้ถึงความตั้งใจที่ใส่ลงไป
ยิ่งด้วยตัวเนื้อเรื่องเป็นตอนที่พีคสุด ถ้านักแสดงทำได้ไม่ดีจริง คนดูคงอินกับมันไม่ได้ง่ายๆ

ตอนจบนักแสดงทั้งหมดออกมาขอบคุณคนดู
และในฐานะที่เราเป็นคนดู เราก็อยากขอบคุณเหล่านักแสดงทุกคนเหมือนกัน
ที่ตั้งใจมอบสิ่งดีๆ ทำสิ่งดีๆ ให้พวกเราทุกคนได้ดู ^ ^



สู้ต่อไปนะเด็กๆ !!!
SuSu !





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น