วันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2561

Girls don’t cry : ภายใต้ท้องฟ้าเดียวกัน คุณเห็นดาวดวงเดียวกับฉันไหม ?

Documentary of BNK48: Girls don’t cry
ภายใต้ท้องฟ้าเดียวกัน คุณเห็นดาวดวงเดียวกับฉันไหม ?





ไม่รู้ว่าด้วยความบังเอิญหรืออย่างไรกับหนังสารคดีของ BNK48 เรื่องนี้ ซึ่งตัวผมตั้งใจว่าคงจะไปดูช่วงวันท้ายๆ ก่อนจะออกจากโรง เพียงเพื่อต้องการเสพย์มันด้วยความเป็นส่วนตัวให้มากที่สุด แต่ก็มีเสียงปลายสายเข้ามาในโทรศัพท์ว่า วันนี้มีบัตรรอบสื่อมวลชนมาให้มาดูไหม ก็เลยทำให้ได้ไปดูวันแรกเช่นคนอื่นเค้า

สำหรับตัวหนังนั้น เนื่องด้วยที่มันเป็นสารคดีที่ทำมาจากชีวิตจริงที่ไม่ได้ปรุงแต่งของเหล่าเมมเบอร์ในวง บางเรื่องคุณอาจจะรู้อยู่แล้ว บางเรื่องคุณอาจจะได้รับรู้จากที่นี่ครั้งแรก ซึ่งเป็นงานของเต๋อ ที่จะทำให้ผู้ชมรู้สึกอินกับมันไปในทุกๆจุด
climax
ของเรื่องได้อย่างไร และทำยังไงที่ทำจะทำให้คนดูหลายกลุ่มไม่เบื่อและมีอารมณ์ร่วม ดังนั้นเนื้อเรื่องเลยถูกปูทางมาหนักๆ แค่ไม่กี่จุด ก่อนจะพยายามลากเส้นตรงไปให้ถึงตอนจบของหนัง และสอดแทรกด้วยบทตลกในบางตอน เพื่อทำให้คนที่กำลังหาวตื่นขึ้นมาดูอีกครั้ง


ในฐานะคนที่ตามวงมาพอสมควร มันจะมีช่วงหนึ่งของหนังที่เราอินเข้าไปในสิ่งที่เมมเบอร์เล่าและระบายออกมา ว่าเอ๊ะเราเป็นส่วนในความเศร้า หรือเป็นส่วนในปัญหาที่เค้าต้องเผชิญรึป่าว บางสิ่งบางอย่างที่เราต้องการ มันคือการทำให้เค้าหลุดจากตัวตนเค้ารึป่าว และเราชอบที่เค้าเป็นแบบนี้ หรือชอบที่เค้าเปลี่ยนเป็นแบบนี้เพราะเรากันแน่ ตรงนี้ต้องขอบคุณเต๋อที่ทำให้เราได้ย้อนกลับมามองตัวเองเหมือนกัน



ส่วนตัวหนังนั้นไม่สามารถกระจายบทลงสู่เมมเบอร์ต่างๆได้อย่างทั่วถึง ซึ่งมองไปมันก็เหมือนกับชีวิตจริงในวง สปอตไลท์มันถูกส่องไปแค่สมาชิกในวงบางกลุ่ม ขณะบางกลุ่มกลับมีเพียงแสงเทียนเล่มเล็กๆ และทำหน้าที่ได้แค่ประคองไม่ให้ดับ ดังนั้นในหนังคุณจะได้เห็นเรื่องราวหลักๆของเมมเบอร์เพียงไม่กี่คนเท่านั้น ซึ่งถ้าไม่ใช่คนที่คุณชอบ ก็อาจจะมีเบื่อๆกันไปบ้าง


แต่หลังจากดูหนังจบ และได้กลับมาคิดทบทวนสิ่งต่างๆที่เต๋อพยายามนำเสนอ ก็กลับรู้สึกว่ามันมีอะไรมากกว่าแค่เรื่องราวเบื้องลึกของเด็กผู้หญิงในวง แต่มันยังสะท้อนไปยังสังคมว่า แท้จริงแล้วเราให้ความสำคัญกับคนๆนึงที่อะไร เรามองเค้าเพราะอะไร สมมติให้คน 100 คน แหงนน่าขึ้นมองดาวบนฟ้า จะมีซักกี่คนที่จะมองเห็นดาวดวงเล็กๆ ที่แสงน้อย ดูไม่สวยงาม แต่หนังสารคดีของเต๋อเรื่องนี้ มันช่วยมอบแสงให้แก่ดาวดวงเล็กๆเหล่านั้น เพื่อหวังว่ามันจะเปล่งประกายและทำให้คนอื่นมองเห็นความพยายามของดาวดวงนั้นบ้าง


.....
ภายใต้ท้องฟ้าเดียวกัน คุณเห็นดาวของฉันรึยังนะ?



วันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2561

Kanteera's Diary ตอน 01 : Shonichi ที่รัก

Shonichi ที่รัก 

"ฉันรักที่จะยืนอยู่ตรงนี้
ตกหลุมรักกับเวทีท่ามกลางเสียงเชียร์"

.....................
"ต้องซ้อมต้องยากลำบากเพียงใด
กว่าฉันจะได้ก้าวผ่านกำแพงนี้ไป
จนถึงนาทีที่ฝัน เมื่อผ้าม่านนั้นเปิดให้ฉันแสดง"

ทุกคนคงรู้สินะคะว่าท่อนนี้มาจากเพลงไหน
ใช่แล้วมันมาจากเพลงโชนิจิ
เพลงแรกที่หนูได้รับเลือกเป็นเซนเตอร์นั่นเอง
และสองท่อนนั้นเป็นท่อนที่หนูคิดว่า
มันอธิบายตัวตนของหนูได้ดีที่สุดเลย

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

ในตอนที่ประกาศเซ็มบัตสึวันนั้น พอหนูชื่อหนูถูกประกาศออกมาว่า
ได้เป็นเซ็นเตอร์คู่กับน้องมิวสิค หนูบอกตรงๆว่าหนูดีใจ
จนทุกอย่างในหัวหนูแบล๊งค์ไปหมดเลย
ลงเวทีมาหนูถึงกับต้องไปถามพี่แก้วอีกครั้งว่า
ตกลงชื่อเพลงอะไรนะคะพี่แก้ว 55555




ณ วินาทีตอนนั้นความรู้สึกของหนูทุกอย่างมันเอ่อล้นไปหมด
รู้สึกว่าสิ่งที่หนูพยายามมาตลอดมันมีคนมองเห็น
และคนนั้นเค้าก็ยื่นโอกาสนั้นมาให้หนู ซึ่งหนูก็รู้นะ
ว่าโอกาสแบบนี้ไม่รู้จะกลับมาอีกครั้งเมื่อไหร่
หนูเลยสัญญาว่าหนูจะทำมันออกมาให้เต็มที่ๆสุด
หนูจะได้ไม่ต้องมาเสียใจภายหลัง
ว่าตอนนั้นหนูทำอะไร ทำไมไม่พยายามกว่านี้

"เป็นคนเต้นไม่เป็น คนเดียวที่ไม่ทัน
ร้องไห้ตอนกลับบ้าน ซ้ำอยู่อย่างนั้นตั้งกี่ครั้ง"

"ร้องเพลงไม่เอาไหน ทำไม่ได้ดั่งใจ
ในบางวันก็สูญเสีย ทุกความมั่นใจไปมากมาย"

แต่วันนี้หนูพยายามจนได้เป็น เซ็นเตอร์แล้วนะทุกคน

-------------------------------------------------------------------------

หลังจากที่พวกเราต่างซ้อมร้องซ้อมเต้นกันมาอย่างหนัก
ผู้ใหญ่ก็ได้มาบอกเราว่า
ได้กำหนดการที่จะแสดงเพลง  "วันแรก" ครั้งแรกแล้วนะ
นั่นคือที่สนามราชมังคลาฯ !!!
ใช่แล้วตอนนั้นพวกเราตกใจมาก ที่การแสดงของพวกเรา
จะได้ไปแสดงในสนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
แถมยังมีการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศอีกต่างหาก
ส่วนหนูไม่ต้องถามนะคะว่าหนูตื่นเต้นแค่ไหน
ก็แค่คืนก่อนวันแสดง
หนูนอนไม่หลับเลยแค่นั้นเองค่ะ.....



และการแสดงวันนั้นก็ผ่านไปได้อย่างราบรื่น
ซึ่งถ้าถามหนูว่าทำได้ดีไหม
หนูก็คิดว่าทำได้ดีนะ แต่หนูจะไม่หยุดแค่นี้หรอก
หนูจะทำมันให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆในทุกครั้งที่มีการแสดง
(หนูตั้งใจไว้อย่างนั้นจริงๆนะ )
-----------------------------------------------------------------

แต่หลังจากนั้น ไม่กี่วันพวกเราก็ต้องแสดงเพลงใหม่
 พอมีของใหม่ก็กลายเป็นว่าทุกคนลืมของเก่ากันหมดเลย
กระแสทั้งในอินเตอร์เน็ต ทุกคนพูดถึงแต่เพลงใหม่
จนบางครั้งหนูก็น้อยใจ ว่าทุกคนลืมไปรึป่าว
ว่าตอนนี้ยังอยู่ในช่วงโปรโมตเพลง"วันแรก"
ของหนูกับน้องมิวสิคอยู่เลยนะ

แต่ไม่เป็นไรหรอกเพราะถึงยังไงหนูก็จะพยายาม
และตั้งใจซ้อมเพลงของหนูให้ดียิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ
แต่ยิ่งซ้อมมากเท่าไหร่ พยายามมากเท่าไหร่
หนูกลับคิดถึง ท่อนนึงของเพลงที่บอกว่า

"คำว่าพยายาม ไม่เคยทำร้ายสักคนที่ตั้งใจ"
นั้นไม่จริงเลย

หนูพยายามมากแค่ไหน เพลงนี้ก็ยังแทบไม่ถูกรับเลือก
ให้ได้รับไปแสดงตามงานอื่นๆอยู่ดี
จนหลายๆครั้งหนูก็โทษตัวเองว่า

"หรือหนูยังพยายามไม่มากพอนะ
และหนูต้องพยายามไปถึงแค่ไหน
ความพยายามที่ไม่มีคนมองเห็น
เรายังเรียกมันว่าความพยายามได้อยู่ไหม?"


ในขณะที่โชนิจิก็ยังไม่ได้ออกงาน
หนูก็เฝ้าถามเหตุผลกับตัวเองอยู่เสมอว่าทำไม
หนูถึงเป็นทุกข์กับมันขนาดนี้ ทั้งๆที่ก็มีเพลงมากมาย
ที่มันไม่ดังและไม่มีคนสนใจเหมือนเพลงนี้

จนในค่ำคืนหนึ่งหนูได้ตั้งใจฟังเพลงนี้อย่างละเอียด
ทำความเข้าใจอย่างละเอียด แล้วหนูก็เข้าใจเหตุผลว่า
ที่หนูอยากแสดงเพลงนี้ให้ทุกคนได้ดูไม่ใช่เพราะหนูอยากดัง

แต่เพราะเพลงนี้มันอธิบายถึงตัวตนทั้งหมดของหนู
ออกมาเป็นเสียงเพลง
หนูอยากให้ทุกคนได้เข้าใจตัวตนของหนู
เหมือนที่หนูอินกับเพลงนี้ทุกครั้งที่ได้ร้องมัน

"หนูตกหลุมรักที่จะยืนอยู่บนเวที
และทำการแสดงให้ทุกคนได้เห็น 
ไม่ว่าหนูจะต้องซ้อมหนักแค่ไหน
หนูก็จะต้องก้าวผ่านมันไปให้ได้

ในตอนแรกหนูเต้นไม่เป็น
ร้องเพลงไม่เก่ง
ทุกครั้งหนูจะกลับบ้านไปร้องไห้
และตัดพ้อกับตัวเองเสมอว่า...
ทำไมทำไม่ได้อย่างคนอื่นเค้า

และสุดท้ายหนูก็ได้เป็นเซ็นเตอร์
ซึ่งมันก็ต้องผ่านทั้งหยาดเหงื่อและน้ำตา
ไม่รู้มากมายเท่าไหร่
ซึ่งหยาดเหงื่อและน้ำตานั้นมันคือเส้นทาง
ที่นำไปสู่ความฝันของหนู "

สุดท้ายหนูก็ไม่รู้หรอกนะว่าเพลงนี้จะได้แสดงอีกครั้งเมื่อไหร่
ตอนไหน หรืออาจจะไม่ได้แสดงอีกแล้ว
แต่หนูก็อยากบอกทุกคนว่า
ตลอดความพยายามทั้งหมดของหนูที่มอบให้แก่เพลงนี้
มันจึงทำให้เพลงนี้ได้ชื่อว่าเป็นเพลงของหนู

"รุ่นพี่สร้างไว้ได้ดีแค่ไหน
แต่ฉันก็จะสร้างสิ่งใหม่ให้ดียิ่งกว่า
ด้วยโชว์ที่สะดุดตา และได้ชื่อว่าเป็นโชว์ของฉันเอง"


.......โชนิจิที่รัก........
-----------------------------------------------------------------------
ศิลปิน: BNK48

ฉันรักที่จะยืนอยู่ตรงนี้
ตกหลุมรักกับเวที
ท่ามกลางเสียงเชียร์
และการปรบมือเหล่านั้น
ที่มีให้ฉันทุกอย่างคือความเร่าร้อน

ต้องซ้อมต้องยากลำบากเพียงใด
กว่าฉันจะได้ก้าวผ่านกำแพงนี้ไป
จนถึงนาทีที่ฝัน
เมื่อผ้าม่านนั้นเปิดให้ฉันแสดง

เป็นคนเต้นไม่เป็น
คนเดียวที่ไม่ทัน
ร้องไห้ตอนกลับบ้าน
ซ้ำอยู่อย่างนั้นตั้งกี่ครั้ง
ร้องเพลงไม่เอาไหน
ทำไม่ได้ดั่งใจ
ในบางวันก็สูญเสีย
ทุกความมั่นใจไปมากมาย
คนอื่นๆเมื่อมองไปเมื่อไร
ก็ดูจะเปล่งประกายกว่าฉัน

ความฝันต้องเกิดหยาดเหงื่อจึงได้มา
ใช้เวลาและค่อยเป็นค่อยไป
ดอกไม้จึงบาน
คำว่าพยายาม
ไม่เคยทำร้ายสักคนที่ตั้งใจ
ความฝันเท่ากับหยาดเหงื่อรินรดไป
เพื่อให้เหล่าเมล็ดพันธุ์
นั้นเติบโตและสูงใหญ่
และคงต้องมีสักวัน
จะได้ดั่งใจสมปรารถนา

ไฟบนเวทีและสปอตไลท์
เปลี่ยนค่ำคืนที่มืดลงไปให้โลกทั้งใบ
คืนมาซึ่งความสดใส
เหมือนแสงอาทิตย์สว่างในใจของฉัน
รุ่นพี่สร้างไว้ได้ดีแค่ไหน
แต่ฉันก็จะสร้างสิ่งใหม่ให้ดียิ่งกว่า
ด้วยโชว์ที่สะดุดตา
และได้ชื่อว่าเป็นโชว์ของฉันเอง

วันที่ต้องหยุดพัก
เพราะร่างกายรับไม่ไหว
วันที่ต้องเจ็บใจ
จนแอบไปสะอื้นกี่ครั้ง
ไปโรงเรียนอยู่แล้ว
ซ้อมก็ยังต้องไป
ภาระในจิตใจ
เริ่มจะหนักเกินไปทุกๆวัน
แล้วจู่ๆเสียงก้องในใจ
อังกอร์จากใครกำลังเรียกฉัน

ความฝันเริ่มจากหยาดเหงื่อและน้ำตา
เหมือนยิ้มจากดอกไม้
ที่งดงามยามที่ฝนซา
ผลิบานไม่โรยรา
เพราะมีวันนี้ด้วยความพยายาม
ความฝันนั้นเป็นบ่อเกิดแห่งน้ำตา
ที่ไม่เคยจะยอมแพ้ต่อเภทภัย
ลมฝนกระหน่ำ
และคำวิงวอนทุกอย่าง
จะส่งให้บนฟ้าได้รับรู้

เต้นกันสุดชีวิตทุ่มเทลงไป
ร้องกันสุดชีวิตสื่อด้วยหัวใจ
เพราะรักจริงใช่ไหมจงอย่าลืมมัน
ใส่ลงไปทุกอย่างมีแรงเท่าไร
Oh

ความฝันต้องเกิดหยาดเหงื่อจึงได้มา
ใช้เวลาและค่อยเป็นค่อยไป
ดอกไม้จึงบาน
คำว่าพยายาม
ไม่เคยทำร้ายสักคนที่ตั้งใจ
ความฝันเท่ากับหยาดเหงื่อรินรดไป
เพื่อให้เหล่าเมล็ดพันธุ์
นั้นเติบโตและสูงใหญ่
และคงต้องมีสักวัน
จะได้ดั่งใจสมปรารถนา