วันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2561

[ NOEY BNK48 ] จากเด็กสาวธรรมดา สู่ธิดางานจับมือ..... และไอดอลสายบวก

ก็จบลงไปเรียบร้อย สำหรับงานจับมือ
ในซิงเกิ้ล Shonichi ของ BNK48 ทั้ง 2 วัน

ซึ่งก็มีเรื่องน่าประหลาดใจที่ทำให้นำมาพูดถึงกันนิดๆนั่นคือ
แถวต่อจับมือที่คนแทบจะเยอะที่สุดในงาน1ในนั้นเป็นแถวของ

"เนย"


ที่บอกน่าประหลาดใจนิดๆก็เพราะ จากงานที่ผ่านๆมา
แถวของเนย ก็แทบจะเป็น 1 ในแถวที่คนเยอะสุดมาหลายงาน
จนวันสุดท้ายที่ให้เมมเบอร์ทุกคนต่อแถวพร้อมกัน ก็พบว่า
แถวของเนยล้นออกมาจากเลน ถึง 3-4 แถว ซึ่งน่าจะเป็นคนที่เยอะสุดในงานแล้ว
(เยอะเหมือนจ้างมา 55555555)

ถ้าย้อนนนนนนนนนนน ไปในช่วงเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว
คงไม่มีใครคิดว่าเด็กบ้านๆธรรมดา
ขี้อายนิดๆ เต้นไม่เป็น ร้องไม่เพราะ
วันนี้จะกลายมาเป็น 1 ในเมมเบอร์ที่แฟนๆอยากมาจับมือด้วย
มากที่สุดของวง
 


ซึ่งจากที่ลองๆคุยมาทั้งจากคนรู้จัก หรือคนที่ต่อแถวร่วมกันอย่างยาวนานในเลนจับมือ
ส่วนใหญ่ก็จะมี 2 เหตุผลหลักๆที่มาจับมือ หรือชอบเนย

1. สวย น่ารัก
(อันนี้น่าจะเหตุผลเบสิคละมั้ง และเมมเบอร์ทุกคนก็คงได้อันนี้กันทั้งนั้น)
2. เพราะขั้วบวกของเนย

ข้อแรกขอข้ามไป มาพูดถึงข้อ 2
ความที่เป็นคนขั้วบวก ประจุบวก สายบวก
(ในที่นี้หมายถึงคนคิดบวกนะ 55555)


ถ้าเราได้ติดตามเนย จากหลายๆช่องทาง ไม่ว่าจะจาก VOOV จากไลฟ์ หรือรายการต่างๆ
เราจะเห็นความสุข เห็นพลังด้านบวก ออกมาจากเนยเสมอ
ไม่ว่าจะเรื่องเศ้รา เนยก็เปลี่ยนมันมาเป็นพลังงานบวกได้
หรือเรื่องแย่ๆ เนยก็ทำให้มันกลายมาเป็นพลังบวกแทนที่จะเป็นลบ





ซึ่งมันทำให้คนที่ติดตาม รู้สึกสบายใจและได้รับพลังนั้นไปด้วย
มันไม่ใช่แค่ว่าเปลี่ยนเรื่องแย่ๆของตัวเองให้มาเป็นพลังให้ตัวเอง
แต่พลังนั้นมันดันพุ่งไปหาแฟนๆด้วย ซึ่งทุกครั้งเราก็รู้สึกอย่างงี้ิ
ทำให้รู้สึกว่าเออ โลกมันก็แค่นี้นี่หว่า
ปัญหาหลายๆอย่างมันก็แค่นี้นี่หว่า อยู่ที่การปรับมุมมอง
แค่นั้นเอง  

นั่นเลยทำให้เลนจับมือของเนยมันเปี่ยมล้นไปด้วยความสุข
ซึ่งการจะถึงจุดนี้มันก็ต้องใช้เวลาสะสมมาหลายวัน หลายสัปดาห์ หรือหลายเดือน
ผ่านทางตัวตนของเนย ที่แสดงออกมาให้แฟนคลับได้เห็น

พอถึงงานจับมือมันเลยเป็นการมอบพลังบวกให้แก่กันระหว่างเนยกับแฟนคลับ
ตอบแทนซึ่งกันละกัน เราเคยได้รับอะไรจากเนย เราก็อยากตอบแทนให้ในงานจับมือ
กลายเป็นความสุขทั้งสองทางที่ได้รับและได้ให้ซึ่งกันและกัน 



หากถามว่าการจับมือเนยดีกว่าจับมือคนอื่นยังไง
เราก็คงตอบไม่ได้ เพราะเราแทบจะจับมือเนยคนเดียวมาโดยตลอด
(แน่นอนว่าแอบไปหาเด็กๆบ้างบางครั้ง.........)


แต่เรารู้สึกว่า มันพอ และมันพอดีละล่ะ ทำไมยังต้องไปไขว่คว้าหาอะไรที่มันดีขึ้นไปอีก
หยุดอยู่กับสิ่งที่มันพอดี และเหมาะกับตัวเราแค่นี้ก็พอแล้ว


ท้ายสุดใครยังไม่ได้มาลองจับมือเนย ก็อยากให้มาลองจับดูซักครั้ง
1-2 ชม. ที่ต่อมันอาจจะนาน แต่เชื่อเถอะ ผลลัพท์หลังจากนั้น
มันคุ้มค่าแก่การรอคอย :)



ขอยืมเนื้อเพลงท่อนนึงของ Ed Sheeran มาหน่อย

"I’m thinking ’bout how people fall in love in mysterious ways
Maybe just the touch of a hand"

"ฉันได้แต่คิดคร่ำครวญว่า คนเรานั้นตกหลุมรักกันได้อย่างไร
บางที่อาจจะเพียงแค่ สัมผัสมือกันก็ได้"


--------------------------------------------------------------------------------------------------------




เพิ่มเติมจากผู้เขียน 

จริงๆเรามีความคิดจะเขียนถึงเนยหลายทีละ
แต่พอตั้งต้นได้นิดนึงก็ไปต่อไม่ได้ก็เลยตันและหยุดกลางคันทุกที
ซึ่งเรื่องแปลกคือเวลาเราพูดถึงเนยให้คนรู้จักฟังเราพูดได้เป๋็นชั่วโมง
แต่พอมาถึงงานเขียน ซึ่งมันใส่ความรู้สึกได้ไม่เหมือนคำพูด
ก็เลยรู้สึกว่าทำไมอ่านสิ่งที่ตัวเองเขียน มันดูไม่สื่อถึงสิ่งที่คิดอยุ่เลย
จนมาครั้งนี้ที่ผ่านงานจับมือมาหยกๆ เลยรู้สึกว่าอาจจะไม่ต้องสื่อสารออกมาทั้งหมดก็ได้มั้ง ซึ่งมันก็ได้แค่นีี้แหละ งานหยาบๆที่ตั้งใจเขียนถึง รึป่าวนะ ? 555555  

ยังไงก็อยากให้มาลองจับมือเนย หรือมารับพลังงานบวกนี้ด้วยกันนะ Go Go Noey Go